ทำงานแบบ Work-Life Balance กันเถอะ ทำงานแบบ Work-Life Balance กันเถอะ แนวคิดการทำงานแบบ Work-Life Balance (ความสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงาน) ไม่ใช่เป็นเรื่องใหม่ของเรา เนื่องจากการใช้เวลาในแต่ละวันเราจะมีบทบาทเกี่ยวกับ ตัวเอง ครอบครัว และงานที่ทำอยู่ ทว่าการที่มี Work-Life Balance ที่ดี ไม่ได้หมายความว่าเราต้องแบ่งเวลาของเราแบบอัตราส่วน 50: 50 เท่านั้น ขอยกตัวอย่างของ Work-Life Balance ที่ดี อาทิ • สามารถทำงานตามกำหนดเวลา โดยที่ยังมีเวลาสำหรับครอบครัว เพื่อนและงานอดิเรกที่ชอบ
• มีเวลานอนหลับเพียงพอและรับประทานอาหารให้ตามเวลา
• ไม่ต้องกังวลเรื่องงานเมื่ออยู่ที่บ้าน
จะทราบว่าเรามี Work-Life Balance ที่ดีหรือไม่ ทำได้โดยลองสำรวจตัวเองว่าเรามีความเครียดจากการทำงานต่อเนื่องและเป็นเวลานานมากน้อยเพียงใด งานที่ทำมีผลกระทบต่อชีวิตส่วนตัวบ้างหรือไม่ เรามีการจัดลำดับการทำงานได้ดีหรือไม่ และสุขภาพเราตอนนี้เป็นอย่างไร
Call Center Master ขอแบ่งปันเทคนิคการทำงานแบบ Work-Life Balance ดังนี้
1. กำหนดเวลาทำงานและการพักผ่อนในแต่ละวันให้ชัดเจน 2. วางแผนและบริหารจัดงาน (Job Prioritize) ในแต่ละวันให้ดี และไม่ลืมแบ่งเวลาสำหรับการพัก (Break) 3. เรียนรู้และเพิ่มพูนศักยภาพที่ตรงกับลักษณะงานของเรา เพื่อจะทำงานได้สนุกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น 4. มีความยืดหยุ่นเกี่ยวกับเวลาทำงานหรือสถานที่ทำงาน (Hybrid Working) 5. มีเวลาดูแลสุขภาพและนอนหลับให้เพียงพอ 6. ใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อนๆ หากผู้อ่านอยู่ในบทบาทของหัวหน้า อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยแนวคิดการทำงานแบบ Work-Life Balance และขอฝากว่าคุณมีส่วนสำคัญที่จะทำให้ทีมงานของคุณสามารถมี Work-Life Balance ได้ ด้วยการสนับสนุนให้มีบรรยากาศการทำงานที่เป็นมิตร จัดสรรปริมาณงานที่เหมาะสม สร้างประสบการณ์ทำงานที่ดีให้กับทีมงาน และมีการสื่อสารระหว่างคุณและทีมงานอย่างสม่ำเสมอ
หากเรามีความสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงานที่ดีจะช่วยลดความเครียด ลดความเสี่ยงของความเหนื่อยหน่ายในการทำงาน (Burnout) และส่งเสริมสุขภาพจิต (Mental Health) ที่ดี
บทความโดย
คุณกฤตาภร ณ นคร
27 มกราคม 2568
อ้างอิงจาก https://www.mentalhealth.org.uk/explore-mental-health/a-z-topics/work-life-balance
|
People