คุณสาวิตรี ศิริโตมร
คุณสาวิตรี ศิริโตมร ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง Direct Marketing, Director บริษัท Intelligent Direct Marketing Consultant Co., Ltd. ซึ่งดำเนินธุรกิจที่ปรึกษาการทำการตลาดให้กับบริษัทประกันชีวิต และบริษัทประกันภัย รวมถึงการทำตลาดแบบ Direct Marketing คุณสาวิตรีมีประสบการณ์ในธุรกิจ Call Center เป็นเวลากว่า 17 ปี มีความเชี่ยวชาญด้านงานขาย การตลาด และ บริหารทีมงานขายสินค้าทางโทรศัพท์ (Telesales) ทั้งธุรกิจประกัน และสินค้าประเภทอื่นๆ
Call Center Master: คุณสาวิตรีเริ่มงานเกี่ยวกับธุรกิจประกันได้อย่างไรคะ
คุณสาวิตรี: เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วดิฉันเป็นแค่ลูกค้าคนหนึ่งของบริษัทประกัน ซื้อประกันกับตัวแทนที่ที่เป็นรุ่นพี่เพราะอยากลดหย่อนภาษีรายได้เท่านั้น ยังไม่ได้ศึกษารายละเอียดลงลึกว่าประกันทำอะไรได้อีกบ้าง จนวันหนึ่งมี head hunter จากต่างประเทศติดต่อมาว่ากำลังหาคนในตำแหน่ง Project Manager ที่จะมาเป็นคนดูแลการตลาดให้กับบริษัทประกันที่เป็นลูกค้าในเมืองไทยและแถบเอเชีย ก่อนไปสัมภาษณ์เลยต้องรีบเอากรมธรรม์ที่ซื้อไว้มาอ่านให้เข้าใจและหาความรู้เพิ่มเติม และดิฉันได้รับเลือกให้ทำงานในตำแหน่งนั้นและมีโอกาสอบรมความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจของบริษัทที่สำนักงานสาขาประเทศสิงคโปร์ บริษัทที่ทำงานเป็นบริษัทในเครือของบริษัทรับประกันภัยต่อรายใหญ่ที่สุดของโลก เรียนรู้การทำธุรกิจระหว่างบริษัทประกันภัยต่อกับบริษัทประกันต่างๆ ดิฉันมีความรับผิดชอบต้องเป็นผู้ช่วย Senior Project Manager ที่รับผิดชอบโครงการ Direct Marketing ในประเทศอื่นอยู่หลายเดือน กว่าจะสามารถมาดูแลงานที่ต้องรับผิดชอบได้ ดิฉันทำงานที่บริษัทนี้อยู่ประมาณสองปี หลังจากนั้นมาทำงานเป็นผู้บริหารบริษัทประกันภัยในเมืองไทยอีก 4 ปี และได้ออกมาทำธุรกิจด้านนี้กับหุ้นส่วนค่ะ
Call Center Master: คุณสาวิตรีมองว่าการเติบโตของธุรกิจประกันในปัจจุบันเปรียบเทียบกับระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้างคะ
คุณสาวิตรี: ก็ยังเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปีนะคะ ปีละ สิบกว่า % อย่างปี 2557 นี้ ทางค.ป.ภ ก็ตั้งเป้าเบี้ยรับที่ 7 แสนล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 12-13% คิดเป็น 6% ของ GDP ส่วนอัตราการมีประกันของประชากรก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆตอนนี้ทั่วประเทศอยู่ที่ 31% คนในเขตเมืองอย่างกรุงเทพฯ และปริมณฑลก็จะมีอัตราการมี ประกันมากกว่าต่างจังหวัด แต่คนซื้อมีความรู้มากขึ้น เข้าใจการประกันมากขึ้น ส่วนคนขายก็มีอัตราการแข่งขันก็สูงตามไปด้วย
Call Center Master: การขายประกันทางโทรศัพท์มีความแตกต่าง หรือ ความยากง่ายกว่าการขายแบบ Face to Face อย่างไรคะ
คุณสาวิตรี: การขายทางโทรศัพท์แตกต่างจากการขายแบบ Face to Face เพราะการขายทางโทรศัพท์ลูกค้าจะไม่เห็นหน้าคนขาย จะไม่มีเอกสารประกอบการขาย เช่นข้อเสนอ กราฟ โบรชัวร์ต่างๆ ซึ่งเป็นเครื่องมือประกอบให้ลูกค้าดูเพื่อสร้างความเข้าใจ และความมั่นใจในการตัดสินใจซื้อ การขายทางโทรศัพท์จะมีแค่เพียงคำพูดผ่านทางโทรศัพท์อธิบายให้ลูกค้าฟังเท่านั้น ดังนั้นการพูดต้องกระชับตรงจุด เพื่อเร่งรัดให้ลูกค้าตัดสินใจ ณ ช่วงเวลาที่สนทนานั้นเลย จริงๆ ความมียากและง่ายกันคนละอย่างแล้วแต่ความถนัดของคนขาย แต่การขายทางโทรศัพท์ก็จะได้เปรียบเรื่องจำนวนลูกค้าที่สามารถทำการขายได้ต่อวัน ไม่มีปัญหาเรื่องสถานที่ที่ลูกค้าอยู่ แต่อาจมีปัญหาเรื่องของความเชื่อมั่นของลูกค้าที่ไม่คุ้นเคยกับการทำการตลาดทางช่องทางนี้
Call Center Master: ปัจจัยที่ทำให้การขายประกันทางโทรศัพท์ประสบความสำเร็จมีอะไรบ้างคะ
คุณสาวิตรี: ความสำเร็จของการขายทางโทรศัพท์ขึ้นอยู่กับ ความตั้งใจในการทำงานของคนขาย รวมถึงทักษะของคนขายไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอสินค้า การตอบข้อโต้แย้ง และการปิดการขาย ส่วนอัตราการติดต่อลูกค้าได้ก็เป็นปัจจัยที่สำคัญเช่นกัน
Call Center Master: คุณสาวิตรีคิดว่าเจ้าหน้าที่ขายทางโทรศัพท์ที่จะประสบความสำเร็จจะต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้างคะ และ คุณสาวิตรีมีเทคนิคในการคัดเลือกเจ้าหน้าที่อย่างไรคะ
คุณสาวิตรี: ข้อแรกคือต้องมีทัศนะคติที่ดีกับงานที่ทำ มีความอดทนอดทน ใจเย็น และเป็นผู้ฟังที่ดี ส่วนทักษะอย่างอื่นสามารถฝึกฝนกันได้เช่นวิธีการพูด การนำเสนอ ตอบข้อโต้แย้ง และการปิดการขาย มารยาทการใช้โทรศัพท์
สำหรับเทคนิคการคัดเลือกเจ้าหน้าที่เบื้องต้นจะดูเรื่องการพูด การตอบคำถามก่อน เพราะงานนี้ใช้การพูดเป็นหลักเป็นหลัก ส่วนทักษะอื่นๆในเบื้องต้นของการสัมภาษณ์อาจจะยังดูพนักงานคนนั้นๆไม่ออก จนกว่าจะได้อบรมหรือปฏิบัติงานไปสักระยะหนึ่ง หากพบว่าด้อยในจุดไหนก็ค่อยปรับเพิ่มการอบรมในจุดนั้น จากการทำงานมานานพบว่าพนักงานที่มีความตั้งใจ อดทนมุ่งมั่น ระยะยาวจะไปได้ดีกว่าคนที่มีทักษะการขายดีกว่า แต่ขาดความมุ่งมั่นความอดทน
Call Center Master: การอบรมที่จำเป็นสำหรับเจ้าหน้าที่ขายประกันทางโทรศัพท์ควรจะมีอะไรบ้าง และเจ้าหน้าที่จะต้องได้รับประกาศนียบัตรด้านใดก่อนเริ่มงานขายคะ
คุณสาวิตรี: ก่อนที่พนักงานจะเริ่มงานขายทางโทรศัพท์ได้จะต้องมีการอบรมเพื่อขอรับใบอนุญาตนายหน้า/ตัวแทน ประกันชีวิต หรือประกันวินาศภัยก่อน ซึ่งจะมีหัวข้อที่เกี่ยวข้องเช่นความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับธุรกิจประกันภัย กฎหมายที่เกี่ยวข้องและความรู้เบื้องต้นของการประกันแต่ละประเภท รวมถึงจรรยาบรรณในวิชาชีพ หลังจากนั้นก็จะเป็นการอบรมความรู้ที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่จะขาย เทคนิคการขาย การทดสอบ Roles-Play การเรียนรู้ระบบการทำงานและอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
Call Center Master: คุณสาวิตรีมีคำแนะนำสำหรับผู้ที่จะซื้อประกันผ่านทางโทรศัพท์ว่าควรจะพิจารณาอะไรบ้างก่อนการตัดสินใจ
คุณสาวิตรี: ผู้ซื้อต้องสอบถามความคุ้มครองและเงื่อนไขข้อยกเว้นให้ชัดเจน เช่นคุ้มครองอะไร ไม่คุ้มครองอะไร ลดหย่อนภาษีได้ไหม ได้เงินคืนไหม รวมถึงวิธีการเรียกร้องสินไหม เช่นเราสำรองจ่ายคือต้องออกเงินค่าสินไหมไปเองแล้วเก็บใบเสร็จตัวจริงมาเบิกคืนทีหลัง หรือไม่ต้องออกเงินเพียงแค่แสดงบัตร ส่วนอัตราค่าเบี้ยประกันมองว่าไม่แตกต่างกันมากขึ้นอยู่กับคนซื้อว่าพึงพอใจกับความคุ้มครองที่ให้และเงินที่ต้องจ่ายหรือไม่ ส่วนบริษัทประกันภัยผู้รับประกันมองว่าไม่ต่างกันเพราะทุกบริษัทต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของ ค.ป.ภ. (คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย) ซึ่งเป็นหน่วยงานสังกัดกระทรวงการคลัง ลูกค้าหลายคนกังวลว่าบริษัทประกันนี้ไม่เคยได้ยินไม่รู้จักอันนี้มองว่าไม่มีผลเพราะบริษัทประกันภัยมีตั้งเจ็บสิบกว่าบริษัท และประกันชีวิตมียี่สิบกว่าบริษัท ลูกค้าไม่มีทางรู้จักหมดอยู่แล้ว แม้แต่คนในธุรกิจก็อาจจะไม่ได้รู้จักทุกบริษัทหมด
Call Center Master: เมื่อคุณมีเวลาว่าง คุณมักจะทำอะไรเพื่อเป็นการพักผ่อนจากงานประจำ
คุณสาวิตรี: หากมีเวลาน้อยส่วนใหญ่ก็เป็นการพักผ่อน ดูแลตัวเอง ออกกำลังกาย อ่านหนังสือทั่วๆไป สนใจหนังสือหลายแนว เช่น ข่าว แฟชั่น ท่องเที่ยว แต่งบ้าน ทำอาหาร หรือหนังสือที่เกี่ยวข้องกับงาน การเงิน การธนาคาร หากมีเวลามากก็เดินทางท่องเที่ยวค่ะ
Call Center Master: ท้ายนี้ อยากให้คุณสาวิตรี ฝากถึงน้องๆ ที่ทำงานขายสินค้าทางโทรศัพท์ เพื่อเป็นแนวทางและเป็นกำลังใจในการทำงานด้วยค่ะ
คุณสาวิตรี: ที่อยากฝากถึงคือเรื่องความอดทน ความมุ่งมั่นและทัศนะคติในการทำงานที่ดี รักในงานที่ทำ และจรรยาบรรณในการทำงาน การขายงานให้อยู่บนหลักของความเป็นจริงของเงื่อนไขกรมธรรม์ คิดถึงผลประโยชน์ลูกค้าเป็นหลัก แล้วผลประโยชน์เราก็จะมาเองหลังจากนั้น การขายก็มีช่วง peak ช่วง low เหมือนธุรกิจอื่นๆแต่การขายก็คือสถิติอย่างหนึ่ง หากเราอดทนทำงาน คุยกับลุกค้าให้มากพอและตั้งใจกับการเสนอสินค้าให้ลูกค้าในทุกๆสาย สถิติมันก็จะทำงานของมันเอง หากเครียดก็ต้องหาเวลามาทำจิตใจให้สงบ และต้องคิดแค่จะทำอย่างไรกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนั้นไม่คิดหมกมุ่นกับเคสที่ไม่สำเร็จและได้ผ่านไปแล้ว
Call Center Master: ขอขอบคุณ คุณสาวิตรี ศิริโตมร ที่สละเวลามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์และให้คำแนะนำดีๆ แก่ผู้อ่านของ Call Center Master ค่ะ
บทสัมภาษณ์โดย : คุณกฤตาภร ณ นคร
24 มีนาคม 2557
|