Call Center Master Tips |
มีกิจกรรม Call Calibration ระหว่างหัวหน้าทีม และเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ หลังจากกำหนดมาตรฐานในการตรวจสอบคุณภาพ และมีการวัดผลการทำงานแล้วนั้น ควรจะมีกิจกรรม Call Calibration ระหว่างผู้รับผิดชอบอย่างสม่ำเสมอ หรือ เดือนละ 1 ครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าแนวทางการทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเป็นโอกาสที่จะได้ปรึกษาแนวทางในการพัฒนาการบริการ (หรือ การขาย) | |
ฝึกฝนควบคุมอารมณ์ในการให้บริการลูกค้า ในแต่ละวัน เจ้าหน้าที่ Contact Center (Agent) ให้บริการลูกค้าที่มีความต้องการที่แตกต่างกัน รวมถึงมีอารมณ์ที่หลากหลาย เพื่อมอบการบริการที่น่าประทับใจในทุกๆ ครั้งของการติดต่อ การควบคุมอารมณ์ของเจ้าหน้าที่ จึงนับว่าเป็นทักษะที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งทักษะนี้สามารถฝึกฝนได้ | |
ให้รางวัลเพื่อกระตุ้นทีมงานที่มีผลงานได้ตามเป้าหมาย การทำงานงานที่มีเป้าหมาย (Target) ชัดเจน จะทำให้เจ้าหน้าที่ใน Contact Center ทำงานได้อย่างมีทิศทาง และ รู้ว่าจะวางแผนการทำงานอย่างไร ทั้งนี้ การสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงานโดยมีรางวัล (Reward) หรือ ผลตอบแทน (Incentive) แก่เจ้าหน้าที่ ทั้งทีมบริการลูกค้า และทีมขาย ก็จะช่วยกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่มีความกระตือรือร้นเพิ่มขึ้น
| |
ใช้ระบบ Real-Time Monitoring ในการบริหารทีมงาน Contact Center การตรวจสอบการทำงานแบบ Real-Time จะช่วยให้หัวหน้างานบริหาร KPI ของหน่วยงาน Contact Center ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจาก ระบบ Real Time Monitoring จะแสดงถึงภาพรวมการปฏิบัติงานของ Contact Center ในวัน และ ในขณะเวลานั้นๆ ซึ่งจะทำให้หัวหน้างานสามารถจะบริหารจำนวนเจ้าหน้าที่ได้อย่างเหมาะสม และ ยังใช้ระบบนี้ในการช่วยเหลือการทำงานของเจ้าหน้าที่ได้อีกด้วย | |
ใช้คำพูดที่เข้าใจง่ายในการให้บริการลูกค้า ในแต่ละธุรกิจมักจะมีคำทับศัพท์ หรือ ตัวย่อ (ที่เรียกกันว่า Jargon) ซึ่งเจ้าหน้าที่ในบริษัทฯ จะเข้าใจความหมาย หรือ ชื่อย่อของศัพท์ต่างๆ และมักจะใช้กันเองในการคุยกันระหว่างทีมงาน ทั้งนี้ การให้บริการลูกค้าควรจะระมัดระวังในการใช้คำทับศัพท์เหล่านี้ การใช้คำพูดที่เข้าใจง่าย หรือ คำอธิบาย จะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจรายละเอียดของข้อมูลได้อย่างชัดเจน | |
ใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานใน Contact Center ให้เกิดประโยชน์สูงสุด การเลือกใช้เทคโนโลยีที่สนับสนุนการทำงานของ Contact Center อย่างเหมาะสม จะทำให้บริหารจัดการจำนวนการติดต่อของลูกค้าและสามารถควบคุมการทำงานของเจ้าหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มศักยภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ อีกทั้งยังลดต้นทุนการดำเนินการ ซึ่งผู้ใช้งานจะต้องศึกษาคุณสมบัติของระบบที่ท่านเลือกใช้ | |
แสดงความใส่ใจในการแก้ไขปัญหา และ รับเรื่องร้องเรียนของลูกค้า สิ่งที่สำคัญในการรับแจ้งปัญหา และ/หรือ รับเรื่องร้องเรียนจากลูกค้า คือการดูแลอารมณ์ และ ความคาดหวังของลูกค้าที่มีต่อเรื่องที่แจ้ง การที่เจ้าหน้าที่เพียงแต่ใช้คำพูดว่า “ขอโทษ หรือ ขออภัย” เท่านั้น อาจจะไม่เพียงพอ เจ้าหน้าที่บริการลูกค้าควรจะแสดงความใส่ใจในปัญหา ทำให้ลูกค้าทราบถึงความจริงใจของหน่วยงาน (หรือ บริษัท) ในการแก้ไขปัญหาของลูกค้า | |
ใช้เวลาช่วงที่ปริมาณสายน้อยในการอบรมเจ้าหน้าที่ การวางแผนอัตรากำลังอย่างเหมาะสม จะพบว่าในบางวัน และ/หรือ บางช่วงเวลา จำนวนการติดต่อจากลูกค้า (Contact Volume) จะน้อย และ Contact Center Agent จะมีเวลาว่าง (Available time นาน) สำหรับหน่วยงาน Contact Center ที่มีระบบ Real Time Monitoring หัวหน้างานอาจจะพิจารณาใช้ช่วงเวลาดังกล่าวในการอบรมเจ้าหน้าที่ | |
ให้บริการที่เกินความคาดหวังแก่ลูกค้า องค์กรต่างๆ จะมีการกำหนดมาตรฐานการบริการ (หรือที่เรียกกันว่า “Service Standard”) เพื่อเจ้าหน้าที่มีแนวทางในทำงานเดียวกัน และได้ตรงตามความคาดหวังของลูกค้า แต่หากต้องการให้ลูกค้าของแนะนำ และ บอกต่อไปยังเพื่อนๆ หรือ คนอื่นๆ ที่รู้จัก การบริการครั้งนั้นๆ จะต้องทำให้ประทับใจและเกินความคาดหวัง หรือที่ภาษาอังกฤษใช้ว่า “ Under- promise and over-deliver” นั่นเอง | |
สร้างคุณค่าของสินค้าที่นำเสนอเพื่อปิดการขาย การนำเสนอสินค้าที่ดี ควรยกประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับเพื่อดึงดูความสนใจของลูกค้า และ หลังจาก Telesales นำเสนอสินค้าแล้ว หากลูกค้าเริ่มมีความสนใจสินค้า ก็มักต้องการทราบราคาของสินค้า นักขายที่ดีควรนำเสนอคุณค่า (Value) ของสินค้า เพื่อช่วยในการปิดการขาย นอกเหนือจากการต่อรองราคากับลูกค้าเท่านั้น |
หน้า 4/8 [ก่อนหน้า] 1 2 3 4 5 6 7 8 [ถัดไป] | [Go to top] |